วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

บันทึกการเทรด 11-15 กรกฎาคม 2022

 ปกติแล้วในการเทรด forex  เรามักได้รับคำแนะนำว่า

ควรเทรดสัปดาห์ที่ 2 และ 3 ของเดือนเนื่องจากจะเป็นเวลาที่ราคาวิ่งมากที่สุด

ซี่งก็เป็นความจริง  นอกจากวิ่งมากที่สุดแล้วก็จะวิ่งแรงด้วย

หากไม่มีกลยุทธ์รับมือที่ดีพอ  ก็อาจจะเป็นผลเสียต่อพอร์ตได้

และถ้าสามารถทำกำไรได้  ก็จะได้กำไรค่อนข้างมาก


ตลาดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวที่แรงมากคือข่าวเงินเฟ้อ

ตลาดมีการตอบรับอย่างรุนแรง  ซึ่งก็เป็นที่น่าพึงพอใจว่า

เราสามารถที่จะทำกำไรได้  แม้ในช่วงที่มีข่าวรุนแรง

แสดงให้เห็นถึงความอดทน  รอคอย  และมีวินัยในการเทรดได้เป็นอย่างดี


ตอนนี้เราใช้กลยุทธ์ SMC ร่วมกับ ICT ในการเทรดดัชนี NASDAQ เป็นหลัก

ซึ่งผลประกอบการที่ผ่านมา 2 สัปดาห์  ให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี

มี Win rate 100% เลยทีเดียว

จริง ๆ ก็เทรดหลายพอร์ต

แต่ยกตัวอย่างมาดูแค่ 2 พอร์ต


พอร์ตนี้เทรดแบบระมัดระวัง  
จริง ๆ ก็ระวังเกินไปหน่อย
รีบปิดออเดอร์
เพราะตลาดมีทิศทางเป็นขาลง
เราเล่นสวนเทรนด์จึงปิดป้องกันเอาไว้ก่อน
ไม่ได้ปล่อยรันเทรนด์
ผลกำไรได้ประมาณ $3,250
ก็ถือว่าพอใจ
คือ  
ไม่ได้พอใจเพราะผลกำไร
แต่พอใจที่ win rate 100%
และมีกำไรในระดับที่ไม่ได้แย่มาก




พอร์ตนี้กำไรรวมน่าจะประมาณ $11,000
และ win rate 100%
พอใจทั้งผลกำไรและ win rate
คือได้กำไรค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับต้นทุน
แต่อย่างไรก็ตาม
ความพึงพอใจอยู่ที่การป้องกันความเสี่ยง
ที่ทำได้ดีมากกว่า


โดยสรุปแล้วก็คือ  จากการเทรดด้วยระบบ SMC และ ICT ได้ผลกำไรที่ดี  และมีความเสี่ยงต่ำ

ซึ่งสิ่งที่พอใจมากกว่าผลกำไรที่ดีคือ  ความเสี่ยงที่ต่ำ

สิ่งที่ต้องเพิ่มเติมคือ

คือ  เพิ่มระยะการทำกำไรให้มากขึ้น  ในระดับความเสี่ยงที่เท่าเดิม

ทั้งนี้ทั้งนั้น  การที่สัปดาห์นี้มีกำไรที่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ (แม้ว่ากำไรจะมากพอสมควร)  

เนื่องจากเทรนด์ของตลาดยังไม่ได้ชัดเจนว่าจะขึ้นหรือจะลง  

มีลักษณะเป็นขาลงแต่ก็มีกำลังซื้อสวนขึ้นเสมอ  

ซึ่งการเก็บกำไรในระดับหนึ่งก็ถือว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงไปในตัว

เพราะตลาดนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน

หากสัปดาห์หน้าตลาดมีการเลือกทางที่แข็งแรงกว่านี้  อาจจะได้รันเทรนด์ให้มีกำไรมากกว่านี้ได้ 


Arty Sensei
ธัชชัย ธัญญาวัลย
17.07.2022



 

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ข้อควรระวังในการเทรดข่าว

 สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวสำคัญถึงสามวันติดต่อกัน

โดยเฉพาะวันพุธ มีข่าวที่ตลาดค่อนข้างให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

คือข่าวเงินเฟ้อ

การเทรดในช่วงข่าวนั้น เทรดเดอร์ควรต้องรู้ระดับความสำคัญและความแรงของข่าว

ซึ่งข่าวประเภทเดียวกันหากอยู่ในช่วงเวลาต่างกันก็อาจมีความสำคัญและความแรงต่างกันได้

ยกตัวอย่างเช่น ข่าวเงินเฟ้อ ในช่วงที่ตลาดไม่ได้กังวลหรือให้ความสำคัญเกี่ยวกับเงินเฟ้อ แม้ว่าจะมีข่าวเกี่ยวกับเงินเฟ้อออกมา และระดับความแรงที่ถูกประเมินไว้ในเว็บ forexfactory จะเป็นสีแดงก็ตาม แต่ข่าวดังกล่าวก็อาจจะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อตลาดมากนัก

หรือในช่วงนี้ ข่าว non farm ซึ่งเคยเป็นข่าวที่ตลาดตอบรับอย่างรุนแรง เริ่มไม่ค่อยมีความสำคัญต่อตลาดเท่าที่ควร เนื่องจากนักลงทุนไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความร้อนแรงของเศรษฐกิจจากการจ้างงานแต่อย่างใดอีกแล้ว

ดังนั้น การพิจารณาความสำคัญของข่าว จึงต้องอาศัยการติดตามข่าวอยู่เสมอว่า ขณะนี้ตลาดกำลังให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องอะไรนั่นเอง

ภาพที่ 1


ภาพที่ 2


ภาพที่ 3


ภาพที่ 4

ข้อควรระวัง หากเทรดเดอร์ต้องการเทรดหรือมีออเดอร์ค้างอยู่ในช่วงที่มีข่าวที่มีความรุนแรงก็คือ

  1. หากเป็นไปได้ ไม่ควรเทรดชนข่าว หรือไม่ควรคาดเดาข่าว ว่าข่าวจะออกมาในรูปแบบใด เนื่องจาก แม้ว่าเทรดเดอร์จะคาดเดาข่าวถูกต้อง แต่อาจจะโดนกราฟราคากระชากไปชน SL ก่อนที่จะถึงจุด TP ได้ ดังตัวอย่างในภาพที่ 1 ข่าวส่งผลให้ราคาของดัชนี nasdaq ลง แต่กราฟราคามีการกระชากขึ้นมาเกือบ 1,000 จุด ก่อนที่จะถูกทุบลงไป ซึ่งหากเทรดเดอร์เทรดในช่วงข่าว ก็อาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่า ราคาจะขึ้นสวนข่าว แต่ในความเป็นจริงคือ ราคาถูกกระชากขึ้นเพื่อลงต่อ หรือหากเทรดเดอร์เทรดฝั่ง sell แล้วตั้ง sl ไว้ต่ำเกินไป ออเดอร์ก็จะโดน sl ก่อนที่จะไปถึงจุด tp นั่นเอง

  2. หากมีออเดอร์ค้างอยู่ ควรปิดขณะที่มีกำไรดีกว่า ดังตัวอย่างในภาพที่ 2 เทรดเดอร์อาจจะถือสถานะ sell มาตั้งแต่วันก่อน และมีการตั้ง sl กันทุนเอาไว้ หรือ มีการทำ trailing stop เมื่อถึงช่วงเวลาของข่าว ปรากฏว่า กราฟราคามีการกระชากอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นผลให้กำไรทั้งหมดที่มีอยู่หากเสียหาย หรือกลายเป็นขาดทุนได้ และอย่าลืมว่า ช่วงเวลาของข่าวจะมีการ slippage เกิดขึ้นอย่างรุนแรง แม้จะมีการตั้ง sl กันทุนเอาไว้ก็ตาม ราคาอาจจะวิ่งเลย sl นั้นก็เป็นได้

  3. แต่ละโบรกเกอร์นั้นมีการปรับแต่งกราฟราคาต่างกัน บางโบรกมีการกระชากรุนแรง บางโบรกอาจจะไม่ได้กระชากรุนแรงมาก ดังนั้น การเทรดในแต่ละโบรกจึงต้องมีการสังเกตให้ดีว่า โบรกที่เราใช้อยู่ มีลักษณะของกราฟเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ภาพที่ 1 และ 2 คือภาพจากโบรกเดียวกัน แต่คนละ TF จะเห็นการกระชากอย่างรุนแรง ขณะภาพที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นอีกโบรกหนึ่งไม่ค่อยมีการกระชากมากนัก ซึ่งจุดนี้เทรดเดอร์ต้องมีความชำนาญในการเทรด หากต้องการเทรดชนข่าว และต้องรู้จักธรรมชาติของกราฟราคาของโบรกเกอร์ที่ใช้อยู่เป็นอย่างดี

  4. แม้ว่าข่าวจะทำให้ราคามีการผันผวนอย่างรุนแรง แต่ในที่สุด ข่าวส่วนมากจะมี sentiment ของข่าวอยู่ไม่นาน อาจจะประมาณ 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับกระแสของข่าวและความคาดการณ์ของนักลงทุน รวมถึงความสำคัญของข่าวที่มีผลต่ออนาคต จากนั้นเมื่อกระแสข่าวหมดไป ราคาก็จะวิ่งไปตามโครงสร้างเดิมโดยไม่สนใจข่าวที่เกิดขึ้นอีก ดังนั้น เทรดเดอร์จะต้องรู้ว่า โครงสร้างเดิมนั้นเป็นเทรนด์ขาขึ้นหรือขาลง หรือมีลักษณะออกข้าง และเมื่อหมดกระแสของข่าวแล้ว หากต้องการเทรดควรเทรดฝั่งไหนอย่างไร

โดยสรุปแล้วก็คือ หากไม่มีความชำนาญ ไม่ควรเทรดชนข่าว และหากต้องการเทรดในวันที่มีข่าว ควรรอให้ sentiment ของข่าวหมดไปก่อน แล้วค่อยเทรดตามโครงสร้างราคาของสินทรัพย์นั้น ๆ และหากไม่แน่ใจว่า ข่าวจะมีผลต่อเนื่องจนทำลายโครงสร้างราคาเดิมได้หรือไม่ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าเทรด เพราะโอกาสที่จะทำกำไรมีอยู่เสมอในวันต่อไป


Arty Sensei

ธัชชัย ธัญญาวัลย

16/07/2022

หลักสูตรเพื่อสอบกองทุน (คอร์สวิดีโอ)

  หลักสูตรนี้สร้างขึ้น เพื่อช่วยให้การสอบกองทุนของเทรดเดอร์  มีความง่าย สะดวก  รวดเร็ว  ประสบความสำเร็จในการสอบมากขึ้น มีเนื้อหาสาระที่จำเป็...