วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

วิธียืนยันตัวตน (KYC) กองทุน MFF ให้ผ่านอย่างง่าย ๆ

 สวัสดีครับ

วันนี้เราจะมาพูดถึงการทำ KYC ของกองทุนให้ผ่านอย่างง่าย ๆ สะดวกและรวดเร็วกันครับ

เนื่องจากเดี๋ยวนี้ MFF ค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องการยืนยันตัวตนมากขึ้น

เมื่อก่อนใช้แค่บิลค่าโทรศัพท์  แถมเป็นภาษาไทย  ก็สามารถใช้ยืนยัน proof of residence ผ่านได้

เดี๋ยวนี้ค่อนข้างยุ่งยากมากยิ่งขึ้น  ต้องมีการถ่าย Selfie ด้วยอะไรด้วย


สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ  ในปัจจุบัน  กองทุน MFF  ค่อนข้างใช้ AI  เข้ามาช่วยงานมากขึ้น

เพราะฉะนั้น  หากเอกสารไม่ตรงกันก็มีโอกาสสูงที่จะถูกปฏิเสธได้


เดี๋ยวเรามาเริ่มทีละ step กันเลยดีกว่า

1. เมื่อสอบผ่านเฟส 2 แล้ว MFF จะส่งอีเมลมาให้อัตโนมัติ  รวมถึงหน้า Account Analyzer จะมีขึ้นให้เราส่งเอกสาร  รวมถึงสามารถดาวน์โหลดใบประกาศได้เลย  นอกจากนี้ Account number ก็จะถูกส่งไปที่อีเมล  รวมถึงส่งมาใน Notifications  ซึ่งในกรณีของ MFF  เราแค่มีเลขพอร์ตเราก็สามารถล็อกอินเข้า MT4/MT5 ได้แล้ว  เพราะใช้ password  เดียวกันกับพอร์ตเดิม

เมื่อสอบผ่านแล้ว  พอร์ตใหม่จะถูกส่งมาทันที  แต่เมื่อล็อกอินเข้าไปจะยังเทรดไม่ได้
จนกว่าจะทำการ KYC ผ่าน


การส่งเอกสารเพื่อ KYC ให้กดปุ่มบนขวาสุดตรงคำว่า  AML/KYC Verification  ในหน้า Analyzer


เราสามารถดาวน์โหลดใบประกาศมาชื่นชมก่อนได้  แม้จะยังเทรดพอร์ตจริงไม่ได้
(อันนี้ขอยืมของคุณแฟนมารีวิว  เนื่องจากของตัวเองสอบผ่านนานแล้ว  ตั้งแต่สมัยที่การ KYC ยังไม่ยากเย็นขนาดนี้นะครับ)

2. เมื่อกดคำว่า AML/KYC Verification เข้าไป  ก็ทำตาม Step  คือ  กรอกข้อมูลส่วนตัวให้เรียบร้อย  ส่วนนี้สำคัญ  ควรต้องกรอกที่อยู่  ให้ตรงกับเอกสารที่จะใช้ยืนยันที่อยู่  และถ้าเป็นไปได้  หากที่อยู่ที่เคยกรอกตอนสมัครตอนแรกไม่ตรงกับที่อยู่ปัจจุบัน  ควรไปเปลี่ยนแปลงให้ตรงกันทั้งหมด  เทคนิคง่าย ๆ ก็คือ  ที่อยู่ทุกส่วนต้องตรงกัน  หากกังวลว่าที่อยู่ในบัตรประชาชนไม่ตรงกับที่อยู่ที่จะใช้ยืนยันที่อยู่  แนะนำให้ใช้เอกสารอื่นแทน  เช่น  ใบขับขี่  หรือพาสปอร์ต  เนื่องจากเอกสารทั้งสองอย่างจะไม่แสดงที่อยู่บนหน้าบัตร

3. Upload รูปบัตรประชาชน/ใบขับขี่/พาสปอร์ต  อย่างใดอย่างหนึ่ง

4. ยืนยันอีเมล  step นี้ต้องทำภายใน  1 นาทีเมื่อกดให้ระบบส่งรหัสไปที่อีเมล  ควรเปิดอีเมลรอไว้  ไม่งั้นก็จะเสียเวลาต้องทำใหม่หากใช้เวลาเกิน 1 นาที

5.  ถ่าย Selfie  ขั้นตอนนี้ไม่ยุ่งยาก  สามารถใช้โทรศัพท์สแกน QR เพื่อถ่ายได้เลย

6. upload เอกสาร proof of residence อันนี้คือขั้นตอนที่เทรดเดอร์ชาวไทยประสบปัญหามากที่สุด  เพราะเอกสารยืนยันที่อยู่ปัจจุบัน  ต้องส่งเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ  ข้อแนะนำก็คือ  เอกสารที่ง่ายที่สุด  แต่ยุ่งยากในการจัดหา  ก็คือ  สำเนาทะเบียนบ้าน  ซึ่งเราต้องไปขอให้เขาทำเป็นภาษาอังกฤษ  แต่เป็นเอกสารที่ดีที่สุดและมีโอกาสถูกปฏิเสธต่ำ  เอกสารที่ใช้ได้ดีอีกอย่างหนึ่งคือ  Statement บัญชีธนาคาร  แนะนำธนาคารกรุงไทย  เพราะมีที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษชัดเจน  หรือจะเอาธนาคารอื่นก็ได้ถ้ามีที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษที่ชัดเจน  แต่ปัญหาของ Statement บัญชีธนาคารจะมีปัญหาตรงที่  ต้องใส่พาสเวิร์ดเพื่อปลดล็อก  แนะนำว่า  เราสามารถเอาเอกสารไปปลดล็อกได้ในโปรแกรม acrobat  หรือใช้โปรแกรมปลดล็อกออนไลน์ก็ได้เช่นกัน  โดยทำได้ที่ https://www.ilovepdf.com/th/unlock_pdf   
เอกสารที่ใช้ไม่ได้  ก็คือ  
-เอกสารที่มีการ Edit  หรือมีการตัดต่อโดย Photoshop  ตรงนี้ AI สามารถจับได้ว่าเราตัดต่อเอกสารหรือไม่
-การ capture หน้าจอ  อันนี้ไม่ได้เลย
-บิลค่าโทรศัพท์มือถือ
-บิลค่ารักษาพยาบาล
-ใบเสร็จรับเงิน
-ใบแจ้งยอดประกัน

คำแนะนำคือหากใช้  statement ธนาคาร  ควรขอมาให้น้อยเดือนที่สุด  1 เดือนได้ยิ่งดี  คือให้มีจำนวนหน้าของเอกสารน้อย ๆ หน้าเดียวยิ่งดี  เพราะระบบใช้ AI ตรวจจับ  ถ้าเอกสารมีจำนวนหน้าเยอะจะตรวจไม่ผ่าน  เอกสารสามารถส่งเป็น pdf ได้เลย  ไม่ควรดัดแปลงแก้ไขใด ๆ เพราะ AI จับได้
เอกสารที่ใช้ได้/ใช้ไม่ได้

7. ขั้นตอนต่อไปเป็นการเซ็นสัญญา หลังจากอัพโหลดเอกสารหมดแล้ว  หน้าจอจะพามาหน้าเซ็นสัญญา เราต้องดาวน์โหลดสัญญาให้ตรงกับที่เราต้องการ  หากเป็นพอร์ตที่ได้จากการสอบ  ก็ดาวน์โหลดสัญญา Evaluation การเซ็นสัญญา  

สำหรับ Accelerated กดดาวน์โหลด หมายเลข 1
ส่วนที่สอบ phase 1, phase 2 กดดาวน์โหลด  หมายเลข 2



กรอกข้อมูลเฉพาะตรงที่เขาให้กรอกเท่านั้น  นอกนั้นปล่อยว่าง

ตัวอย่างบริเวณที่ต้องกรอก  สามารถใช้โปรแกรมพิมพ์ได้เลย  
และสามารถเซ็นบนเอกสารด้วยโปรแกรมได้
หรือจะเขียนด้วยลายมือบน ไอแพด
หรือจะปริ้นท์ออกมาเขียน  แล้วถ่ายภาพ/สแกนเป็นไฟล์ pdf  ก็ได้

เสร็จแล้วก็  upload  เอกสารเข้าไป


8. จากนั้นก็กด  Submit เอกสารทั้งหมด  หน้าจอก็จะหมุน ๆ อยู่  AI จะตรวจเป็นรายการ ๆ 
สามรายการนี้ตรวจง่าย  เพราะมันชัดเจน
เหลืออีก 3 รายการจะเริ่มยากเพราะข้อมูลต้องตรงกัน

ถ้า proof of residence ผ่าน  ก็สบายใจได้
ที่เหลือก็จะผ่าน

9. หากไม่ผ่านข้อใด  เขาจะมีข้อความแจ้ง  ให้เราแก้ไขตามนั้น

10. เมื่อผ่านทั้งหมดแล้วจะมีอีเมลแจ้งมาให้ทราบ  และปุ่ม KYC จะหายไป
เราก็สามารถเอาพอร์ตไปเทรดทำกำไรได้เลย

ปุ่ม KYC หายไปแล้ว

พร้อมกับมีอีเมลแจ้งผ่านยืนยันตัวตนเรียบร้อย

ทุกขั้นตอนจะเป็นการใช้ AI ตรวจ  เพราะฉะนั้น  หากไม่มีอะไรผิดพลาดและทุกอย่างถูกต้องตรงกัน  ปัญหาก็จะไม่ค่อยมีนะครับ
แต่ถ้ามีปัญหาหรือติดขัด  ก็สามารถส่งอีเมลหา support ได้โดยตรง

สุดท้ายก็หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขกับการเทรด  และขอให้ทำกำไรได้เยอะ ๆ ครับ

ส่วนการถอนกำไรของ Phase 1   จะมารีวิวเร็ว ๆ นี้
เพราะตอนนี้เราสามารถกดถอนกำไรเฟสแรกได้เลยเมื่อสอบผ่านนะครับ


Arty Sensei
ธัชชัย ธัญญาวัลย
กุมภาพันธ์ 2566











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หลักสูตรเพื่อสอบกองทุน (คอร์สวิดีโอ)

  หลักสูตรนี้สร้างขึ้น เพื่อช่วยให้การสอบกองทุนของเทรดเดอร์  มีความง่าย สะดวก  รวดเร็ว  ประสบความสำเร็จในการสอบมากขึ้น มีเนื้อหาสาระที่จำเป็...